วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

เรื่องย่อ...แฮร์รี่ ภาค1



ผู้เขียน : เจเค โรว์ลิ่งชื่อ

ตอนภาษาไทย : แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ศิลาอาถรรพ์
ชื่อย่อ : SS

เนื้อเรื่องย่อ
แฮร์รี่ อาศัยอยู่กับลุงกับป้าตั้งแต่แบเบาะ ชีวิตของเด็กที่กำพร้าทั้งพ่อและแม่ไม่ได้สบายนัก ยิ่งมีลูกพี่ลูกน้องที่ตะกละและเกเรอย่างดัดลีย์ให้รบราด้วยแล้ว ชีวิตของแฮร์รี่ก็เรียกได้ว่าไม่มีความสุขเอาเสียเลย
วันที่เด็กชายมีอายุครบสิบเอ็ดปี เขาได้รับจดหมายจากโรงเรียนพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ ให้ไปเข้าชั้นเรียน แฮกริด ผู้ดูแลสัตว์และผู้รักษากุญแจของฮอกวอตส์เป็นคนมารับแฮร์รี่ไปซื้ออุปกรณ์การเรียนที่ตรอกไดแอกอน ย่านการจับจ่ายของพ่อมดแม่มด น่าแปลกที่ใคร ๆ ก็รู้จักแฮร์รี่! ในที่สุดแฮกริดก็เปิดเผยให้เด็กชายรู้ว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ถูกรถชนตายอย่างที่ลุงกับป้าบอก และแผลเป็นรูปสายฟ้าบนหน้าผากของเขามีที่มาอย่างไร แฮกริดได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับชีวิตพ่อมดอีกหลายอย่างก่อนจะพาเขาไปส่งที่ชานชาลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่ สถานีรถไฟคิงส์ครอส รถจักรไอน้ำขบวนสีแดงสดพานักเรียนพ่อมดแม่มดไปสู่ปราสาทฮอกวอตส์อันไกลโพ้น แฮร์รี่ได้พบเพื่อนใหม่ที่กลายเป็นเพื่อนซี้อย่างรอนและเฮอร์ไมโอนี่ ขณะกำลังสนุกและตื่นเต้นกับการเป็นนักเรียนประจำในโรงเรียนพ่อมด แฮร์รี่ก็ต้องเข้าไปยับยั้งไม่ให้โวลเดอมอร์หรือคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ผู้สังหารพ่อแม่และฝากแผลเป็นไว้ที่หน้าผากของเขาได้ครอบครองศิลาอาถรรพ์ พ่อมดน้อยที่เพิ่งเริ่มเรียนจะเอาชนะเจ้าแห่งศาสตร์มืดผู้กระหายชีวิตอมตะได้อย่างไร

วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

จริยธรรมและคุณธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมีเป็นจำนวนมากและเพิ่มขึ้นทุกวัน การใช้งานระบบเครือข่ายที่ออนไลน์และส่งข่าวสารถึงกันย่อมมีผู้ที่มีความประพฤติไม่ดีปะปนและสร้างปัญหาให้กับผู้ใช้อื่นอยู่เสมอ หลายเครือข่ายจึงได้ออกกฏเกณฑ์การใช้งานภายในเครือข่าย เพื่อให้สมาชิกในเครือข่ายของตนยึดถือ ปฏิบัติตามกฏเกณฑ์และได้รับประโยชน์สูงสุด ดังนั้น ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทุกคนที่เป็นสมาชิกเครือข่ายจะต้องเข้าใจกฏเกณฑ์ข้อบังคับของ เครือข่ายนั้นมีความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้ร่วมใช้บริการคนอื่นและจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองที่เข้าไปขอใช้บริการต่างๆ บนเครือข่ายบนระบบคอมพิวเตอร์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเรียกเข้ามิได้เป็นเพียงเครือข่ายขององค์กรที่ผู้ใช้สังกัด แต่เป็นการเชื่อมโยงของเครือข่ายต่างๆ เข้าหากันหลายพันหลายหมื่นเครือข่ายมีข้อมูลข่าวสารอยู่ระหว่างเครือข่ายเป็นจำนวนมาก การส่งข่าวสารในเครือข่ายนั้นอาจทำให้ข่าวสารกระจายเดินทางไปยังเครือข่ายอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมากหรือแม้แต่การส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ฉบับหนึ่งก็อาจจะต้องเดินทางผ่านเครือข่ายอีกหลายเครือข่ายกว่าจะถึงปลายทาง ดังนั้นผู้ใช้บริการต้องให้ความสำคัญและตระหนักถึงปัญหาปริมาณข้อมูลข่าวสารที่วิ่งอยู่บนเครือข่ายการใช้งานอย่างสร้างสรรค์และเกิดประโยชน์จะทำให้สังคมอินเทอร์เน็ตน่าใช้และเป็นประโยชน์ร่วมกันอย่างดี กิจกรรมบางอย่างที่ไม่ควรปฏิบัติจะต้องหลีกเลี่ยงเช่นการส่งกระจายข่าวไปเป็นจำนวนมากบนเครือข่าย การส่งเอกสารจดหมายลูกโซ่ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะเป็นผลเสียโดยรวมต่อผู้ใช้และไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ ต่อสังคมอินเทอร์เน็ต
เพื่อให้การอยู่ร่วมกันในสังคมอินเทอร์เน็ตสงบสุข Arlene H.Rinaldi แห่งมหาวิทยาลัย ฟอร์ริดาแอตแลนติก จึงรวบรวมกฎกติกามารยาทและวางเป็นจรรยาบรรณอินเทอร์เน็ตหรือที่เรียกว่า Netiquette ไว้ดังนี้

จรรยาบรรณที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตยึดถือไว้เป็นบทการปฏิบัติเพื่อเตือนความจำ
1. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้ายหรือละเมิดผู้อื่น
2. ต้องไม่รบกวนการทำงานของผู้อื่น
3. ต้องไม่สอดแนมหรือแก้ไขเปิดดูในแฟ้มของผู้อื่น
4. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
5. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ
6. ต้องไม่คัดลอกโปรแกรมผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์
7. ต้องไม่ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์
8. ต้องไม่นำเอาผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน
9. ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคมอันติดตามมาจากการกระทำ
10.ต้องใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพกฎระเบียบ กติกามารยาท


จรรยาบรรณเป็นสิ่งที่ทำให้สังคมอินเทอร์เน็ตเป็นระเบียบความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นเรื่องที่จะต้องปลูกฝังกฎเกณฑ์ของแต่ละเครือข่ายจึงต้องมีการวางระเบียบเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีระบบและเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน บางเครือข่ายมีบทลงโทษและจรรยาบรรณที่ชัดเจน เพื่อช่วยให้สังคมสงบสุขและหากการละเมิดรุนแรงกฎหมายก็จะเข้ามามีบทบาทได้เช่นกัน


กฎหมายและศีลธรรม (Motal) เป็นกฏเกณฑ์ที่เป็นลายลักษณ์อักษรของสังคมมาช้านานเราพอเข้าใจได้ง่าย ๆ ว่า รัฐเป็นผู้ตรากฏหมายขึ้นเพื่อใช้บังคับพลเมืองในอาณาเขตของรัฐ ขณะศีลธรรมเป็นข้อบัญญัติทางศาสนาซึ่งเป็นหลักความเชื่อของประชาชน จริยธรรม (Ethics) เป็นเรื่องของการกำหนดความถูกต้องดีงาม สิ่งที่ไม่ควรทำ มีหลักปฏิบัติในระดับที่สูงกว่ามารยาทในสังคม เช่น คนที่ไม่ยอมเข้าแถวเพื่อขอรับบริการตามสิทธิ์ก่อนหลังอาจถือว่าไม่มีมารยาทหรือพนักงานคอมพิวเตอร์คนหนึ่งเอาข้อมูลทางการเงินของลูกค้าที่เขาจะต้องเห็นตามหน้าที่การงานไปหาผลประโยชน์แก่ตนเอง เช่น ขายรายชื่อนั้นให้ธุรกิจอื่น หรือบอกให้แก่คู่สมรสซึ่งเป็นพนักงานขายตรงไปเสนอขายสินค้า การกระทำเช่นนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง ไม่มีจริยธรรม จริงอยู่ แม้ว่าบริษัทที่พนักงานผู้นั้นทำงานอยู่จะไม่เสียหาย แต่การนำเอาของบริษัทไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจทำได้อย่างเปิดเผย หรือพนักงานขายสินค้าของทางบริการหนึ่งซึ่งลาออกจากบริษัทเพื่อไปทำงานกับบริษัทคู่แข่งแล้วใช้ประโยชน์จากความรู้ในเรื่องข้อมูลราคาหรือความลับทางการค้าของบริษัทแรกไปให้บริษัทหลัง ก็อาจเรียกได้ว่าพนักงานคนนั้นไม่มีจริยธรรม เมื่อสังคมสลับซับซ้อนขึ้น มีการแบ่งหน้าที่กันออกเป็นหน้าที่ต่าง ๆ จึงมีข้อกำหนดที่เรียกว่า “จรรยาวิชาชีพ” (Code of Conduct) ขึ้น เพื่อใช้เป็นหลักปฏิบัติของคนในอาชีพนั้น ๆ เราคงเคยได้ยิน จรรยาบรรณของแพทย์ ที่จะไม่เปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวของคนไข้ จรรยาบรรณของนักหนังสือพิมพ์ที่รับเงินทองสิ่งตอบแทนเพื่อเสนอข่าวหรือไม่เสนอข่าวไม่เปิดเผยแหล่งข่าวถ้าแหล่งข่าวไม่ต้องการจรรยาบรรณวิชาชีพของสถาปนิกหรือวิศวกรผู้ออกแบบที่ต้องไม่รับผลประโยชน์ใด ๆ จากผู้ขายอุปกรณ์ที่ใช้ในงานที่เขาออกแบบ ซึ่งขายให้กับผู้ว่าจ้างงานชิ้นนั้นเพราะเขาได้รับปลตอบแทนจากผู้ว่าจ้างแล้ว จรรยาบรรณของวิชาชีพใด ก็มักกำหนดขึ้นโดยสมาคมวิชาชีพนั้น โดยมีข้อกำหนด บทลงโทษที่นอกเหนือไปจากกฏหมายบ้านเมือง เช่น เพิกถอนสมาชิกภาพ เพิกถอนหรือพักใบประกอบวิชาชีพ และอาจมีกฏหมายรองรับอีกด้วย อาชีพนักคอมพิวเตอร์ เป็นอาชีพใหม่ในสังคมสารสนเทศ การใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศ ก็เป็นสิ่งใหม่ที่มีศีลธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณเฉพาะของตนซึ่งบางครั้งก็แตกต่างจากจริยธรรมที่ยอมรับกันมาแต่ก่อน หลักพื้นฐานของจริยธรรมในสังคมสารสนเทศก็คือการเคารพผู้อื่น เคารพความเป็นส่วนตัว การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลก็จะเฉพาะสิทธิ์ที่ตนเองมีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงาน
ลินดา เฮอร์นดอน ได้กล่าวถึงบัญญัติสิบประการของการใช้คอมพิวเตอร์ไว้ดังนี้
1. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้ายผู้อื่น
2. ไม่รบกวนจนงานคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น
3. ไม่แอบดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่น
4. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อลักขโมย
5. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเป็นพยานเท็จ
6. ไม่ใช้หรือทำสำเนาซอฟต์แวร์ที่ตนไม่ได้ซื้อสิทธิ์
7. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยไม่มีอำนาจหน้าที่
8. ไม่ฉวยเอาทรัพย์ทางปัญญาของผู้อื่นมาเป็นของตน
9. คิดถึงผลต่อเนื่องทางสังคมของโปรแกรมที่เขียน
10. ใช้คอมพิวเตอร์ในทางที่แสดงถึงความใคร่ครวญและเคารพ จรรยาวิชาชีพ ของสมาชิกสมาคมเครื่องจักรกลคอมพิวเตอร์ (Association of ComputerMachinery ACM Code of Conduct) ซึ่งเป็นสมาคมวิชาชีพนักคอมพิวเตอร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งมีดังนี้
1. กฏข้อบังคับทางศีลธรรมทั่วไป1. ทำประโยชน์ให้สังคมและความผาสุกของมนุษย์ ข้อนี้เกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคนคุ้มครองหลักสิทธิมนุษยชน ขั้นพื้นฐาน เคารพความหลากหลายของวัฒนธรรมทั้งหมด ลดผลด้านลบของระบบคอมพิวเตอร์ที่มีต่อสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม
2. ไม่ทำอันตรายแก่ผู้อื่น อันตรายหมายรวมถึง การบาดเจ็บหรือผลต่อเนื่องด้านลบ เช่น การสูญเสียข้อมูลอันเป็นที่ไม่พึงปรารถนา ทรัพย์สินสูญหายหรือเสียหาย ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ไม่พึงปรารถนา หลักการข้อนี้ห้ามการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศไปทำอันตรายต่อผู้ใช้สาธารณชน พนักงานและนายจ้างอันตรายนี้รวมถึงการจงใจทำลายหรือแก้ไขข้อมูลในแฟ้มข้อมูลและโปรแกรมที่ทำให้สูญเสีย หรือเสียเวลาและความพยายามของบุคลากรที่จำเป็นต้องใช้ทำลายไวรัสคอมพิวเตอร์ในสภาพแวดล้อมที่ทำงาน นักวิชาชีพคอมพิวเตอร์จะต้องรายงานสัญญาณอันตรายที่อาจก่อให้เกิดผลต่อความเสียหายของสังคมและบุคคล แม้ว่าหัวหน้างานจะไม่ลงมือแก้ไขหรือลดทอนอันตรายนั้น ก็อาจจำเป็นต้องแจ้งให้ผู้อื่นที่เกี่ยวข้องทราบโดยอาจอาศัยผู้ร่วมวิชาชีพเป็นผู้ให้คำปรึกษา
3. ซื่อสัตย์และไว้วางใจได้ นักคอมพิวเตอร์ที่ซื่อสัตย์นอกจากจะไม่จงใจแอบอ้างระบบหรือการออกแบบที่หลอกลวงอันเป็นเท็จแล้ว ยังจะต้องเปิดเผยอย่างเต็มที่ให้เห็นข้อจำกัดและปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบทั้งหมดอีกด้วย
4. ยุติธรรมและการกระทำที่ไม่แบ่งแยกกีดกัน ข้อบังคับข้อนี้ใช้คุณค่าของความเสมอภาค ความใจกว้างให้อภัย เคารพในผู้อื่น ความเที่ยงธรรม การแบ่งแยกกีดกันโดยเชื้อชาติ เพศ ศาสนา อายุ ความพิการ สัญชาติ หรือปัจจัยอื่นเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้
5. ให้เกียรติสิทธิในทรัพย์สิน รวมทั้งลิขสิทธิ์และสิทธิ์บัตร แม้ว่าสิ่งซึ่งมีลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร ความลับทางการค้า การละเมิดข้อตกลงการใช้สิทธิ จะได้รับการคุ้มครองทางกฏหมายอยู่แล้ว แม้แต่ซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับการคุ้มครอง การละเมิดก็ถือว่าเป็นการขัดต่อการประพฤติทางวิชาชีพ การลอกหรือทำสำเนาซอฟต์แวร์จะต้องทำโดยมีอำนาจหน้าที่เท่านั้น การทำสำเนาวัสดุใด ๆ เป็นสิ่งที่ให้อภัยไม่ได้
6. ให้เกียรติแก่ทรัพย์สินทางปัญญา นักวิชาชีพคอมพิวเตอร์จะต้องป้องกันหลักคุณธรรมของทรัพย์สินทางปัญญา แม้ว่างานนั้นจะไม่ได้รับการป้องกันอย่างเปิดเผยก็ตาม เช่น งานอันมีลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตร
7. เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น หลักการนี้ยังหมายถึง การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในระบบเท่าที่จำเป็น มีระยะเวลากำหนดการเก็บรักษาและทิ้งอย่างชัดเจน และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด การรวบรวมข้อมูลไว้เพื่อวัตถุประสงค์หนึ่ง ข้อมูลนั้นจะถูกนำไปใช้ เพื่อการอื่นโดยไม่ได้รับคำยินยอมจากผู้นั้นมิได้
8. ให้เกียรติในการรักษาความลับ หลักแห่งความซื่อสัตย์ข้อนี้ขยายไปถึงความลับของข้อมูลที่ไม่ว่าจะแจ้งโดยเปิดเผยหรือสัญญว่าจะปกปิดเป็นความลับ หรือโดยนัยเมื่อข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ของผู้นั้นปรากฏขึ้น จริยธรรมข้อนี้เกี่ยวข้องกับการเคารพข้อบังคับทั้งหลายที่เกี่ยวกับความลับของขายจ้าง ลูกค้า ผู้ใช้ เว้นเสียแต่เปิดเผยโดยกฏหมายบังคับหรือตามหลักแห่งจรรยาบรรณนี้
2. ความรับผิดชอบในวิชาชีพ1. มุ่งมั่นเพื่อให้ได้คุณภาพที่ดีที่สุด และให้ตระหนักถึงผลเสียหายที่สืบเนื่องจากระบบที่ด้อยคุณภาพ2. ได้มาและรักษาไว้ซึ่งความเชี่ยวชาญแห่งวิชาชีพ3. รับรู้และเคารพกฎหมายท้องถิ่น กฎหมายแห่งรัฐ และกฎหมายระหว่างประเทศ4. ยอมรับและจัดให้มีการสอบทานทางวิชาชีพ (Professional Review) 5. ให้ความเห็นประเมินระบบคอมพิวเตอร์และผลกระทบอย่างละเอียดครบถ้วน รวมทั้งการวิเคราะห์ความเสี่ยงที่เป็นไปได้ 6. ให้เกียรติ รักษาสัญญา ข้อตกลง และความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมาย 7. ปรับปรุงความเข้าใจของสาธารณชนต่อคอมพิวเตอร์และผลสืบเนื่อง8. เข้าถึงทรัพยากรคอมพิวเตอร์และสื่บสารเฉพาะเมื่อได้รับมอบอำนาจตามหน้าที่เท่านั้นไม่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น ซอฟต์แวร์ แฟ้มข้อมูลใด ๆ โดยไม่ได้ขออนุญาต
3. จริยธรรมในการใช้ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส 1. ไม่โฆษณาหรือเสนอขายสินค้า 2. รู้ตัวว่ากำลังกล่าวอะไร 3. ถ้าไม่เห็นด้วยกับหลักพื้นฐานของรายชื่อกลุ่มที่ตนเป็นสมาชิก ก็ควรออกจากกลุ่มไม่ควรโต้แย้ง 4. คิดก่อนเขียน 5. อย่าใช้อารมณ์ 6. พยายามอ่านคำถามที่ถามบรอย (FAQ) ก่อนเสมอ 7. ไม่ส่งข่าวสารที่กล่าวร้าย หลอกลวง หยาบคาย ข่มขู่ 8. ไม่ส่งต่อจดหมายลูกโซ่ หรือเมล์ขยะ 9. ถ้าสงสัยไม่ทำดีกว่า 10. รู้ไว้ด้วยว่าสำหรับผู้เขียน คือ บันทึกฉันท์เพื่อน แต่สำหรับผู้รับ คือ ข้อความที่จารึกไว้บนศิลาจารึก 11. ให้ความระมัดระวังกับคำเสียดสี และอารมณ์ขัน 12. อ่านข้อความในอีเมล์ ให้ละเอียดก่อนส่ง ความประณีตและตัวสะกด การันต์ เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง 13. ดูรายชื่อผู้รับให้ดีว่า เขาคือคนที่เราตั้งใจจะส่งไปถึง


ฤดูกาลใน...ญี่ปุ่น

ฤดูในญี่ปุ่น สภาพภูมิอากาศในญี่ปุ่น ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความต่างทางสภาพภูมิอากาศอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วทางเหนือ จะมีอากาศหนาว และอบอุ่นเรื่อยๆลงมาทางตอนใต้ ชาวญี่ปุ่นจึงให้ความสนใจต่อการพยากรณ์อากาศ และที่สำคัญการพยากรณ์ของประเทศเค้าช่างแม่นยำจริงๆ ญี่ปุ่นมี 4ฤดูด้วยกัน ดังนี้นะครับ

ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) : อากาศจะค่อยๆหนาวขึ้นเรื่อยๆ ไล่ลงมาตั้งแต่ตอนเหนือลงไปตอนใต้ อย่างเช่น ขณะที่โตเกียวมีอุณหภูมิประมาณ 10 องศาเซลเซียส ทางตอนเหนืออาจจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ 2-3 องศาเซลเซียส แม่น้ำลำคลองและทะเลสาปเริ่มเป็นน้ำแข็งแล้วทุกแห่งก็จะปกคลุมไปด้วยหิมะ อากาศหนาวเย็นแต่ผู้คนกลับมีความสุขเพราะจะได้เล่นกีฬาที่นิยมเล่นกันในฤดูหนาว คือ สกี เช่นที่เมืองซัปโปโระจะมีเทศกาลหิมะก็จะมีการสร้างประติมากรรมขึ้นมาจากหิมะและมีการแข่งขันประกวดกันด้วย ส่วนตัวเราเองชอบฤดูหนาว เพราะว่ามันหนาว.. และจะมีโอกาสได้เห็นแฟชั่นเสื้อกันหนาวแจ๋วๆ ของบรรดาผู้หญิง ผู้ชาย เมืองญี่ปุ่น เห็นบางชุดอาจจะอุทานออกมาอย่างเสียงหลงเลยก็ได้ ว่า มันคิดได้งัยอ่ะ !!
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) : อากาศเริ่มย่างเข้าสู่ความอบอุ่นหลังจากเผชิญกับความหนาวเย็นมานาน ต้นไม้ดอกไม้ต่างผลิใบสีเขียวเริ่มเข้าสู่การมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ลมที่พัดก็พาเอากลิ่นไอของต้นไม้ใบหญ้าหอมสดชื่นไปทั้งเมือง หลายคนมองว่าเป็นฤดูที่น่าเที่ยวที่สุดโดยเฉพาะดอกซากุระสีชมพูจะบานสะพรั่งในหน้านี้ ซึ่งช่วงที่ดอกซากุระบานเต็มที่นั้นทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจะออกมาชมความงามกันอย่างพร้อมเพรียง ก็ปีนึงมีให้ชมกันแค่ครั้งเดียว ไม่พลาดอยู่แล้ว ช่วงนี้แฟชั่นในญี่ปุ่นจะคึกคักมากสลัดคราบทึมๆของเสื้อกันหนาว มาสู่เสื้อผ้าสีสันสดใสต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ ไอ้ที่เค้าโฆษณา ฮารุชะ เนี่ยะก็ช่วงนี้แหละ ชาเขียวยอดแรก ที่เก็บเกี่ยวหนึ่งปีมีครั้งเดียว ว่าแล้วต้องลองดูหน่อย
ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) : ฤดูนี้จะมีฝนตกเป็นบางช่วงนานประมาณ 5 สัปดาห์ ชาวนาก็จะเริ่มฤดูทำนา พอเข้าสู่เดือนกรกฎาคมท้องฟ้าสีครามสดใสอากาศก็จะร้อนขึ้นเรื่อยๆจนไม่แพ้เมืองไทยเลยทีเดียว จึงเป็นช่วงที่เหมาะแก่การไปเที่ยวทะเล แฟชั่นชุดว่ายน้ำก็หาดูได้ไม่ยากตามชายหาดทะเล แล้วคุณหนุ่มๆทั้งหลายต้องน้ำลายหยดติ๋งๆกับแฟชั่นที่หลุดมาจากแคทวอร์คจริงๆ หน้านี้จะมีผลไม้ต่างๆออกผลมามากมายจึงเหมาะแก่การท่องเที่ยวหาชิมผลไม้หลากชนิด
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) : ช่วงนี้อากาศกำลังเย็นสบาย ใบไม้ค่อยๆเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นแดง ส้ม และเหลือง จนได้ชื่อว่าฤดูใบไม้แดง ผู้คนก็จะออกไปชมดอกไม้เปลี่ยนสีตามสวนและตามสถานที่ต่างๆกันอย่างคึกคักจัดได้ว่าเป็นฤดูที่มีสีสันที่สุดตามป่าเขา หลังจากใบไม้เปลี่ยนสีก็จะปลิวร่วงลงดินเหมือนสายฝน ต้นไม้บางชนิดหลังจากใบร่วงหมดก็จะแตกช่อออกดอกมาให้ชมความงามกันด้วย

รู้จักญี่ปุ่น



รู้จักประเทศ...ญี่ปุ่น...
ญี่ปุ่น หากจะว่าไปแล้วนับเป็นประเทศที่ติดอันดับต้นๆ เลยทีเดียวที่มีคนอยากไปท่องเที่ยวมากที่สุด อันเนื่องมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นมีภูมิประเทศที่มีความเป็นเฉพาะตัว และมีเอกลักษณ์ อย่างเช่น ภูเขาไฟฟูจิ ที่มีหิมะที่เปล่งความงดงามอยู่คู่ประเทศมายาวนาน ศิลปวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาอย่างเหนียวแน่น และคนญี่ปุ่นที่มีความเป็นมิตรไมตรี เป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอย่างพวกเรา ครั้งแล้วครั้งเล่าที่อยากจะไปเยือนญี่ปุ่นอีกครั้ง..